วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558

ระบบย่อยอาหาร

ระบบย่อยอาหาร


ความหมาย กระบานแปรสภาพสารอาหารโมเลกุลขนาดใหญ่ให้มีขนาดเล็ก จนสามารถดูดซึมเข้าเซลล์นำไปไช้ประโยชน์ได้
การย่อยของมนุษย์ประกอบไปด้วย  แบบเชิงกล คือการบดเคี้ยวอาหารโดยฟัน เป็นการเปลี่ยนแปลงขนาดโมเลกุลทำให้สารอาหารมีขนาดเล็กลง
                                                     แบบเคมี คือการเปลี่ยนแปลงขนาดโมเลกุลของสารอาหารโดยใช้เอนไซม์ที่เกี่ยวข้องทำให้โมเลกุลของ

สารอาหารเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีได้โมเลกุลที่มีขนาดเล็กลง

ระบบย่อยอาหารแบบสมบูรณ์มีหน้าที่หลัก5อย่าง
1การทำงานเชิงกลและการขับเคลื่อนอาหาร
2การหลั่งสาร
3การย่อยอาหาร
4การดูดซึม
5การกำจัด
*ทางเดินอาหารของมนุษย์ยาว 6.5-9เมตร

อวัยวะหลัก
            ปาก
            คอหอย
            หลอดอาหาร
            กระเพาะอาหาร
            ลำไส้เล็ก
            ลำไส้ใหญ่
ไส้ตรง  รูทวาร



ทางเดินอาหาร
            เริ่มจากปากย่อยเชิงกลที่การเคี่ยวและคลุกเคล้าโดยฟัน การย่อยเคมีเกิดขึ้นเมื่ออาหารผสมกับน้ำย่อยที่หลั่งออกมาจากต่อมน้ำลายเรียกว่า อะไมเลส มีหน้าที่ย่อยสารอาหารจำพวกแป้ง  ไบคาร์บอเนตช่วยรักษาสภาพไม่ให้เป็นกรดมากเกินไป มิวคัสหรือเมือกประกอบด้วยโปรตีนมิวชินทำให้อาหารที่เคี้ยวในปากมีความหนืดติดกัน  ซึ่งอาหารที่เรากลืนเข้าไปจะไหลลงสู่คอหอยกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยารีเฟลกซ์ในการกลืน โดยฝากลล่องเสียจะลดตัวต่ำลงมาปิดหลอดลม อาหารจึงเคลื่อนที่เข้าสู่หลอดอาหาร ในหลอดอาหารจะประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อเรียบ โดยกล้ามเนื้อเนื้อเรียบจีบตัวเรียกว่า เพอริสทัลซิส อาหารจะเคลื่อนที่เป็นแบบลูกคลื่นทำให้อาหารไหลลงสู่กระเพาะอาหาร
           



กระเพาะอาหารเป็นถุงกล้ามเนื้อที่ยืดได้มีหูรูดเป็นกล้ามเนื้อที่ควบคุมการผ่านของอาหาร กระเพาะอาหารสามารถบรรจุอาหารและของเหลงได้มากถึง 1ลิตร  กระเพาะอาหารมีหน้าที่อยู่3หน้าที่
            1เก็บอาหารและควบคุมการผ่านของอาหารไปยังลำไส้เล็ก
            2ย่อยอาหาร
            3หลั่งสารเพื่อช่วยย่อยอาหารในเชิงเคมี




การย่อยเลิงเคมีเริ่มต้นที่กระเพาะอาหาร โดยกรดในกระเพาะอาหารจะช่วยให้โปรตีนคลายตัว โดยกรดไฮโดคลอริกจะช่วยทำให้เอนไซม์เพปซิโนเจนเปลี่ยนเป็นเพปซินย่อยโปรตีนให้กลายเป็นกรดอะมิโน  เปลี่ยนโปรเรนินเป็นเรนินย่อยโปรตีนในนม การที่มีอาหารตำพวกโปรตีนลงมาในกระเพาะอาหาร จะกระตุ้นเซลล์ต่อมไร้ท่อหลั่งฮฮร์โนแกสทรินซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้หลั่งสารที่เป็นกรดออกมามากในกระเพาะอาหาร ถ้ากระเพาะอาหารว่างฮอร์โมนแกสทรินแลกรดใน้กระเพาะอาหารก็จะลดน้อยลง ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้ผนังของกระเพาะถูกทำลายโดยกรด
           

เมื่ออาหารเข้าสู่ลำไส้เล็ก การย่อยเชิงเคมีจะเสร็จสมบูรณ์ที่นี้ โดยได้รับไคม์จากกระเพาะอาหาร ไบคาร์บอเนตและน้ำย่อยจากตับอ่อน  และน้ำดีจากถุงน้ำดีเอนไซม์จากตับทำงานร่วมกับเอนไซม์ที่เยื่อหุ้มเซลล์ของลำไส้เล็กเพื่อย่อยอาหารจนกระทั่งได้หน่วยย่อยของอาหารที่สามารถดูดซึมได้ โดยคาร์โบไฮเดรตกลายเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว จะถูกดูดโดยซึมผ่านผนังลำไส้เล็ก นั่นก็คือวิลลัสแล้วแพร่เข้าสู่กระแสเลือดต่อไป การดูดซึมโปรตีนเมื่อกลายเป็นกรดอะมิโนก็จะถูกดูดซึมเหมือนคาร์โบไฮเดรต ส่วนการดูดซึมใขมันนั้นเมื่อกลายเป็นกรดไขมันและโมโนแซ็กคาไรด์จะถูกดูดซึมแลล้วกลับไปรวมตัวกันเป็นไตรกีเซวอไรด์อีกครั้งหนึ่ง โดยจะเคลื่อเข้าสู่ระบบน้ำเหลืองและเข้าสู่ระบบลำเลียงเลือดในที่สุด

            ลำไส้ใหญ่เป็นส่วนที่ไม่ดูดซึมจะเคลื่อนไปที่ส่วนของโคลอน  เมื่อกากอาหารเคลื่อนที่ลงมาก็จะมีการดูดซึมน้ำกลับทำให้กากอาหารแห้งลงกายเป็นอุจจาระ เมื่อหลังมื้ออาหารจากระบบประสาทอัตโนมัติจะทำให้ลำไส้ใหญ่บีบตัวเพื่อผลักให้กากอาหารเคลื่อนที่ไปยังไส้ตรง และปล่อยออกนอกร่างหาย 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น